จากสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ เป็นช่วงฤดูร้อน ตั้งแต่ปลายเดือนกุมภาพันธ์ – เดือนกรกฎาคม โรคพิษสุนัขบ้าระบาดมากในทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนใหญ่พบมากในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทุกชนิด เช่น แมว ชะนี ลิง กระรอก กระแต หนู ค้างคาว และสัตว์เศรษฐกิจ เช่น วัว ควาย ม้า สุกร โดยพบในตัวสัตว์ที่มีประวัติเคยถูกสุนัขบ้ากัดมาก่อน หรือสัตว์ป่าในเมืองไทยพบว่า สุนัขเป็นตัวแพร่เชื้อที่สำคัญมากที่สุดกว่า 95 % ของผู้เสียชีวิต ซึ่งมีสาเหตุมาจากสุนัข สาเหตุรองลงมาคือ แมว เมื่อป่วยด้วยโรคพิษสุนัขบ้า จะทำให้มีอาการทางประสาท โดยเฉพาะที่ระบบประสาทส่วนกลาง เมื่อได้รับพิษจะทำให้เสียชีวิตทุกราย หากฉีดวัคซีนป้องกันโรคไม่ทัน ทั้งนี้ คาดกันว่าในแต่ละปีทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคพิษสุนัขบ้า ปีละกว่า 60,000 คน ซึ่งคนสามารถเป็นโรคพิษสุนัขบ้าได้ หากได้รับเชื้อจากสัตว์ที่เป็นโรคพิษสุนัขบ้า โดยสามารถรับเชื้อได้สองทาง คือ
1. สัตว์ที่เป็นโรคกัด หรือ ข่วน โดยเชื้อไวรัสจากน้ำลายของสัตว์ที่เป็นโรค จะเข้าสู่บาดแผลที่กัด
2. ถูกสัตว์ที่เป็นโรคเลีย ปกติจะไม่ติดเชื้อ นอกจากว่าบริเวณที่ถูกเลียจะมีบาดแผล หรืรอยถลอก
ขีดข่วน รวมทั้งการถูกเลียริมฝีปาก หรือนัยน์ตา
อาการของคนเมื่อติดเชื้อพิษสุนัขบ้า
สำหรับอาการของคนที่ได้รับเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า ส่วนใหญ่มีอาการของสมองอักเสบ และไขสันหลังอักเสบ โดยอาการเริ่มแรกของผู้ป่วยจะมีไข้ต่ำๆ เจ็บคอ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ต่อมามีอาการคัน มักเริ่มจากบริเวณแผลที่ถูกกัด แสบๆ ร้อนๆ แล้วลามไปส่วนอื่นบางคนคันมากเกาจนกลายเป็นแผลอักเสบ มีน้ำเหลือง ต่อมาจะกระสับกระส่าย กลัวแสงกลัวลม ไม่ชอบเสียงดัง เพ้อเจ้อ หลุกหลิก กระวนกระวาย หนาวสั่น ตามักเบิกโพลงบ่อยๆ บางครั้งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นโรคทางจิต มีอาการกลืนลำบากโดยเฉพาะอย่างยิ่งของเหลว จะเกิดอาการปวดเกร็ง ทำให้ไม่อยากดื่มน้ำมีอาการกลัวน้ำ จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า โรคกลัวน้ำ ไม่อยากกลืนแม้กระทั่งน้ำลาย จึงทำให้ น้ำลายไหล บางคนอาจปวดท้องน้อยและขา คนไข้เพศชายบางรายมีน้ำอสุจิไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว กล้ามเนื้อกระตุก แน่นหน้าอก หายใจ ไม่ออกหรืออาจชักเกร็ง อัมพาต หมดสติและตายในที่สุด
เมื่อถูกสุนัขบ้ากัด หรือ สงสัยว่าถูกสุนัขบ้ากัด ข่วน หรือเลียตามบาดแผล ให้รีบปฏิบัติดังนี้
1. รีบล้างแผลให้เร็วที่สุดด้วยสบู่และน้ำสะอาดหลายๆ ครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อ เพราะจะทำให้เชื้อโรคต่างๆ ที่บริเวณนั้นหลุดออกจากแผลไปตามน้ำ ไม่ว่าจะเป็นเชื้อโรคพิษสุนัขบ้า หรือเชื้อโรคอื่นๆ แล้วเช็ดแผลให้แห้ง ใส่ยาฆ่าเชื้อ เช่น โพวิโดนไอโอดีน ถ้าไม่มีอาจใช้แอลกอฮอล์ 70% หรือทิงเจอร์ไอโอดีน หรือยาฆ่าเชื้ออื่นๆ แทน
2. ต้องจดจำลักษณะและสังเกตอาการสัตว์ที่กัด รวมทั้งติดตามสืบหาเจ้าของเพื่อซักถามประวัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษ สุนัขบ้า ที่มาของสัตว์และสังเกตอาการสัตว์ที่กัด 10 วัน (สุนัขคอกเดียวกัน พันธุ์เดียวกันสีเดียวกัน ลักษณะคล้ายคลึงกัน อาจจำผิดตัวได้)
3. ไปพบแพทย์เพื่อรับการป้องกันรักษาที่ถูกต้อง ถ้ามีความเสี่ยงต่อโรคพิษสุนัขบ้า แพทย์จะฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าให้
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าในปัจจุบัน
วัคซีนโรคพิษสุนัขบ้าที่ใช้ฉีดคนในปัจจุบันไม่ต้องฉีดรอบสะดือทุกวันเหมือนแต่ก่อนแล้ว ฉีดเพียง 4 – 5 เข็ม ฉีดได้ทั้งในเด็กและสตรีมีครรภ์…