เทศบาลตำบลป่าตันนาครัว ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่เฝ้าระวังและติดตามข่าวสารสภาพอากาศที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน ซึ่งปัจจุบันนี้อุณหภูมิมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะสูงได้ถึง 42-43 องศาเซสเซียส ทำให้มีความเสี่ยงต่อการเจ็บปวด เช่น โรคระบบทางเดินอาหาร เนื่องจากอาหารและน้ำดื่ม แต่อีกโรคที่มีการพูดถึงกันน้อย ทั้งที่มีคนเป็นบ่อยในช่วงหน้าร้อน คือ โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stroke) ซึ่งโรคนี้มีอันตรายถึงชีวิตได้เช่นกัน ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพตนเองในช่วงหน้าร้อนนี้ และแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตพื้นที่รู้จักถึงโรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stroke) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด (Heat Stroke) เป็นโรคที่เกิดจากที่ร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป จนทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส โดยมีอาการเบื้องต้น ดังนี้








โรคฮีทสโตรก หรือ โรคลมแดด แบ่งตามสาเหตุการเกิดโรคออกเป็น 2 ประเภท คือ
1. Classical Heat Stroke เกิดจากความร้อนในสิ่งแวดล้อมที่อาศัยอยู่มีมากเกินไป ส่วนใหญ่เกิดในช่วงอากาศร้อน พบบ่อยในผู้สูงอายุและมีโรคเรื้อรัง มักเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบประสาทส่วนกลาง อาการที่สำคัญ คือ อุณหภูมิในร่างกายสูง ไม่มีเหงื่อ
2. Exertional Heat Stroke เกิดจากการออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป มักจะเกิดในหน้าร้อนโดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้แรงงานและนักกรีฑา อาการคล้ายกับกลุ่มแรกแต่ต่างกันตรงที่กลุ่มแรกนั้นมีเหงื่อออก และพบอาการอื่นแทรกซ้อน
บุคคลที่มีความเสี่ยงว่าจะเกิดโรคลมแดด





การช่วยเหลือผู้ป่วยโรคลมแดด





– ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว
– สวมเสื้อผ้าที่มีสีอ่อน ไม่หนา น้ำหนักเบา และสามารถระบายความร้อนได้ดี
– ก่อนออกจากบ้านควรใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ขึ้นไป
– หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดดในวันที่อากาศร้อนจัด
– หลีกเลี่ยงการกินยาแก้แพ้ ลดน้ำมูก โดยเฉพาะก่อนการออกกำลังกาย หรือการอยู่ท่ามกลางอากาศร้อนเป็นเวลานาน
– หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และยาเสพติดทุกชนิด
– เด็กเล็กและคนชราควรดูแลอย่างใกล้ชิด จัดให้อยู่ในห้องที่อากาศระบายได้ดี และอย่าปล่อยให้เด็กและคนชราอยู่ในรถที่ปิดสนิทตามลำพัง



